ปะการัง เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กประเภทหนึ่งที่แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ใต้ท้องทะเล มีโครงสร้างเป็นหินปูนห่อหุ้มตัวอันอ่อนนุ่มของปะการังไว้เป็นชั้นนอก ซึ่งโครงสร้างหินปูนนี้เกิดจากชีวิตเล็กๆ ของปะการังได้สร้างขึ้นเป็นรูปทรงต่างๆ เป็นแผ่น เป็นก้อนหรือมีกิ่งก้าน และแผ่ขยายไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นแนวปะการังอยู่ใต้ท้องทะเล ปะการังจะเติบโตได้ดีเฉพาะบริเวณที่น้ำทะเลมีอุณหภูมิตั้งแต่ 8-27 องศาเซลเซียส มีแสงแดดพอประมาณ น้ำไม่ขุ่น และมีความลึกของน้ำไม่เกินกว่า 50 เมตร
ปะการังมีรูปร่างเป็นทรงกระบอกที่มีขนาดเพียง 1 มิลลิเมตร ถึง 1 เซนติเมตรและมีส่วนประกอบที่สำคัญอยู่ 3 ส่วนคือส่วนที่เป็นฐานซึ่งอยู่ติดกับโครงสร้างหินปูนส่วนบนที่เป็นปากมีหนวดล้อมอยู่โดยรอบซึ่งบริเวณหนวดมีเข็มพิษที่มีฤทธิ์ทำให้เหยื่อสลบหรือตายและส่วนกลางของลำตัวมีรูปร่างเป็นทรงกระบอก ในตอนกลางวันปะการังจะเก็บตัวอยู่ในโครงสร้างแข็งอยู่ตลอดเวลาพอกลางคืนปะการังก็จะแผ่ขยายหนวดออกควานหาเหยื่อเล็กๆ ที่ล่องลอยมากับกระแสน้ำ นอกจากนี้อาหารของปาการังอีกชนิดหนึ่งก็คือสาหร่ายที่อาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อของมันเอง
ปะการังตัวหนึ่งๆ เมื่อเติบโตเต็มที่จะขยายพันธุ์โดยให้กำเนิดลูกปะการังเล็กๆ ล่องลอยไปตามกระแสน้ำซึ่งสามารถล่องลอยไปกับกระแสน้ำได้ในระยะไกลแสนไกลตราบเท่าที่มันยังไม่ตกเป็นเหยื่อของสัตว์ทะเลอื่นและไปเกาะจับบริเวณที่เป็นส่วนแข็งของท้องทะเล เช่น ก้อนหิน ปะการังจะเริ่มสร้างโครงสร้างแข็งที่เป็นหินปูนขึ้นห่อหุ้มตัวไว้ และขยายพันธุ์ไปเรื่อยๆ จนเติบโตเป็นกลุ่มก้อนรูปทรงต่างๆ และเมื่อชีวิตเล็กๆ ของปะการังเกิดขึ้นใหม่ก็จะสร้างโครงแข็งจากโครงร่างเดิมแตกเป็นกิ่งก้านออกไปอยู่ตลอดเวลา ทำให้แนวปะการังค่อยๆ แผ่ขยายออกไปเป็นอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ภายใต้น่านน้ำแห่งท้องทะเล ในปีหนึ่งๆ กลุ่มปะการังจะสามารถสร้างโครงสร้างหินปูนได้เพียง 6-7 มิลลิเมตรเท่านั้น กิ่งก้านสาขาของปะการังที่เราเห็นจะเติบโตได้ 10 เซนติเมตรนั้น ก็ต้องใช้เวลาสร้างนาน 10 - 15 ปี